
ในยุคปัจจุบันที่การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์และการนั่งทำงานในท่าเดิมๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่แปลกใจเลยที่หลายคนเริ่มประสบปัญหาทางสุขภาพซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นผลมาจากการใช้เวลานานในการนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม หนึ่งในปัญหาสุขภาพยอดฮิตในกลุ่มวัยทำงานนี้ก็คือ “Office Syndrome” ภัยเงียบที่มักส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพในระยะยาว
Office Syndrome คืออะไร?
Office Syndrome เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานในออฟฟิศหรือสถานที่ทำงานในลักษณะนั่งนานๆ โดยมักเกิดจากท่าทางที่ไม่เหมาะสมในการนั่งทำงาน การใช้อุปกรณ์สำนักงานที่ไม่สอดคล้องกับหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomics) รวมถึงการทำงานต่อเนื่องโดยไม่พัก อาการของ Office Syndrome มักเริ่มจากความเมื่อยล้าหรืออาการปวดกล้ามเนื้อเล็กน้อย แต่หากไม่ได้รับการแก้ไข อาจนำไปสู่อาการที่รุนแรงขึ้นเช่น กล้ามเนื้ออักเสบ หรือแม้แต่ปัญหาของกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูก
**สาเหตุของ Office Syndrome**
* **
**อาการของ Office Syndrome**
**การป้องกัน Office Syndrome**
**การรักษา Office Syndrome**
สาเหตุของ Office Syndrome
ท่านั่งที่ไม่เหมาะสม: หลายคนมักนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์โดยหลังงอ คอเอียง หรืออยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน การนั่งในท่าทางที่ไม่เหมาะสมนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการตึงเครียดมากกว่าปกติ
การใช้อุปกรณ์สำนักงานที่ไม่ถูกหลักสรีรศาสตร์: เก้าอี้ที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้อยู่ในระดับสายตา ล้วนแต่ทำให้ร่างกายต้องปรับตัวในท่าที่ไม่เหมาะสม
การทำงานต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก: การนั่งทำงานเป็นเวลานานโดยไม่หยุดพักเพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อหรือเปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายเกิดการตึงเครียดสะสม
ความเครียด: ความเครียดที่เกิดจากการทำงานยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถเพิ่มความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุที่นำไปสู่อาการปวดต่างๆได้
อาการของ Office Syndrome
อาการของ Office Syndrome มีหลายรูปแบบและอาจเกิดขึ้นกับหลายส่วนของร่างกาย อาการที่พบบ่อย ได้แก่:
อาการปวดคอและบ่า: มักเป็นอาการเริ่มต้นที่พบในคนทำงานที่ใช้เวลานานในการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ อาการปวดนี้มักจะลามไปยังไหล่และหลัง
ปวดหลังส่วนล่าง: เนื่องจากการนั่งนานเกินไปโดยไม่ได้เคลื่อนไหว ทำให้กล้ามเนื้อหลังตึงและเกิดอาการปวด
อาการชาหรือเจ็บปลายประสาท: เกิดจากการที่กล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทถูกกดทับเป็นเวลานาน ทำให้เกิดอาการชา เจ็บ หรือไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก
ปวดหัวเรื้อรัง: การเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณคอและบ่าอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและความเมื่อยล้าของร่างกาย
การป้องกัน Office Syndrome
การป้องกัน Office Syndrome สามารถทำได้โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน รวมถึงการปรับอุปกรณ์สำนักงานให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความเครียดกับกล้ามเนื้อและข้อต่อ
- ปรับท่านั่งในการทำงาน: ควรนั่งให้หลังตรง มีพนักพิงรองรับเอว ข้อศอกควรวางขนานกับโต๊ะ และหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ในระดับสายตา
- หยุดพักและยืดเหยียดกล้ามเนื้อ: ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ควรลุกขึ้นเดินหรือทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง เพื่อลดความตึงเครียดสะสม
- เลือกอุปกรณ์สำนักงานที่สอดคล้องกับหลักสรีรศาสตร์: เก้าอี้ที่สามารถปรับความสูงได้ หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระดับสายตา รวมถึงการใช้แผ่นรองข้อมือเพื่อป้องกันการกดทับเส้นประสาท
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายที่เน้นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณหลัง คอ และไหล่ จะช่วยลดโอกาสการเกิด Office Syndrome
การรักษา Office Syndrome
แม้ว่า Office Syndrome จะเป็นอาการที่สามารถป้องกันได้ แต่หากปล่อยให้เกิดปัญหาจนเรื้อรัง การรักษาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
กายภาพบำบัด: การทำกายภาพบำบัดเป็นวิธีการที่อาจช่วยลดอาการปวดและความเครียดของกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการฟื้นฟูสมดุลของกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ รวมถึงการฝึกท่าทางที่ถูกต้องในการทำงาน นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น PMS (Peripheral Magnetic Stimulation) อาจช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ผ่อนคลายและฟื้นฟูได้ดีขึ้น
การนวดเพื่อการรักษา: การนวดคลายกล้ามเนื้อเป็นอีกหนึ่งวิธีที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดและตึงเครียดในระยะสั้น แต่ควรทำควบคู่กับการปรับพฤติกรรมในการทำงานเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
การรักษาด้วยยา: ในกรณีที่อาการปวดรุนแรงมาก แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาแก้ปวดหรือยาแก้อักเสบเพื่อลดอาการปวดและบรรเทาการอักเสบของกล้ามเนื้อ
ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
Office Syndrome ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ เช่น การทำงานที่ลดลงเนื่องจากความเมื่อยล้า การนอนไม่หลับจากอาการปวดเรื้อรัง และความเครียดจากการที่ร่างกายไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่
สรุป
Office Syndrome เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดจากพฤติกรรมการทำงานที่ไม่ถูกต้องและการละเลยการดูแลสุขภาพ หากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไขอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว การป้องกันและการรักษา Office Syndrome จึงควรเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การนั่งทำงานในท่าทางที่ถูกต้อง การพักและยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรง
หากคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับ Office Syndrome และต้องการคำแนะนำหรือการรักษาแบบเฉพาะทาง ทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดของเราที่คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness ยินดีให้บริการดูแลสุขภาพทั้ง สาขาชลบุรี และ สาขาโรบินสันเพชรบุรี โดยทีมกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์ในการฟื้นฟูและรักษา Office Syndrome ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงเทคโนโลยี PMS ซึ่งอาจมีส่วนช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @zenista