Office syndrome อาการที่เกิดได้บ่อยจากการทำงาน

Office syndrome อาการที่เกิดได้บ่อยจากการทำงาน

ในโลกปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเรา หลายคนใช้เวลาจำนวนมากในการทำงานในสำนักงาน ลักษณะงานที่ต้องอยู่ประจำที่ในสำนักงานมักนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า "ออฟฟิศซินโดรม" บทความนี้จะพูดถึงสาเหตุ วิธีการป้องกัน และการทำกายภาพบำบัดที่ใช้ในการรักษาออฟฟิศซินโดรม นอกจากนี้ เราจะหารือเกี่ยวกับผลที่ตามมาที่อาจเกิดขึ้นหากเงื่อนไขนี้ยังคงไม่ได้รับการรักษา

สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรมมีสาเหตุหลักมาจากการนั่งเป็นเวลานาน ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง และการทำงานซ้ำ ๆ สาเหตุที่พบบ่อยมีดังนี้

1. ไลฟ์สไตล์ที่ต้องอยู่ประจำที่: การนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานโดยไม่หยุดพักเป็นประจำอาจทำให้กล้ามเนื้อตึงและทำให้การไหลเวียนโลหิตลดลง

2. สภาพแวดล้อมหรืออุปกรณ์การทำงานไม่เหมาะสม : สถานีทำงาน (Work Station) ที่ไม่เหมาะสม รวมถึงความสูงของเก้าอี้ ความสูงของโต๊ะ หรือตำแหน่งจอภาพที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดท่าทางที่ไม่ดีและเกิดปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูกได้

3 การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ: การเคลื่อนไหวเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เช่น การพิมพ์หรือใช้เมาส์ เป็นเวลานานอาจทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นตึง ส่งผลให้รู้สึกไม่สบายและเจ็บปวด

วิธีการป้องกัน

การป้องกันออฟฟิศซินโดรมต้องใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ต่อไปนี้เป็นเทคนิคการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

สถานีทำงาน (Work Station) ตามหลักสรีรศาสตร์

สถานีทำงาน หรือ Work Station ควรออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ด้วยเก้าอี้ที่ปรับได้ ความสูงของโต๊ะที่เหมาะสม และจอภาพอยู่ในตำแหน่งระดับสายตา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมท่าทางที่ถูกต้องและลดความเครียดในร่างกาย

การพักและการยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ

พักสั้น ๆ ทุกชั่วโมงเพื่อยืน ประมาณ 5-10 นาที ยืดเส้นยืดสาย การออกกำลังกายยืดเส้นง่าย ๆ โดยเน้นที่คอ ไหล่ หลัง และข้อมือ และเดินเล่น หรือเดินเข้าห้องน้ำ สามารถช่วยบรรเทาความตึงเครียดและเพิ่มการไหลเวียนเลือด ป้องกันอาการปวดได้

การออกกำลังกาย

ออกกำลังกายเป็นประจำนอกเวลาทำงานเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ หรือการวิ่งจ๊อกกิ้งสามารถช่วยละการเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้

การดูแลสำหรับอาการออฟฟิศซินโดรมด้วยตัวเอง

1. การบำบัดด้วยตนเอง : เช่น การนวด การยืดกล้ามเนื้อ สามารถลดความเครียดของกล้ามเนื้อและช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้

2 การแก้ไขท่าทาง : นักกายภาพบำบัดจะประเมินลักษณะท่าทางการทำงาน หรือลักษณะการทำกิจกรรมที่ส่งผลต่ออาการ และให้คำแนะนำไปปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดที่จะเกิดขึ้นจากการทำงาน

3 การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง : การออกกำลังกายเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการบาดเจ็บได้ยาก

ผลที่ตามมาของกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมที่ไม่ได้รับการรักษา

หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ออฟฟิศซินโดรมสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ และส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานและความเป็นอยู่โดยรวม ผลที่ตามมาที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่

อาการปวดเรื้อรัง

การตึงของกล้ามเนื้อเป็นเวลานานอาจพัฒนาไปสู่อาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดคอ ปวดหลัง และปวดไหล่ ซึ่งส่งผลต่อกิจกรรมประจำวันและคุณภาพชีวิต

ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

ความรู้สึกไม่สบายและความเจ็บปวดอาจขัดขวางสมาธิ และลดประสิทธิภาพการทำงานลง ส่งผลให้คุณภาพงานและความพึงพอใจในงานลดลง

ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการบาดเจ็บ

กล้ามเนื้อที่อ่อนแอและท่าทางที่ไม่ดีจะเพิ่มโอกาสในการเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น เคล็ด ตึง ปวด และการบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ ได้

หากท่านมีอาการปวดจาก Office syndrome กำลังหาวิธีการรักษา สามารถเข้ารับบริการจาก Zenista clinic ได้ โดยมีนักกายภาพบำบัดคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาการ Office Syndrome ตรวจประเมินร่างกาย วางแผนการรักษา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness สาขาชลบุรี” และ “คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness สาขาเพชรบุรี” ทั้งสองสาขา และสามารถสอบถาม ปรึกษา นัดหมายล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ได้ที่ Line ID : @zenista

บริการแนะนำ

กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

กายภาพบำบัด

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

รักษาข้อเข่าเสื่อม

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

รักษาออฟฟิศซินโดรม

รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง