10 อาการ ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าต้องมาหานักกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัดทำได้หลากหลายอาการมากและบางอาการหลายๆคนก็ไม่รู้ว่าการรักษาทางกายภาพบำบัดสามารถช่วยได้ ดังนั้นวันนี้เรามาดู 10 อาการยอดฮิตที่ต้องทำกายภาพบำบัดกันครับ
1. ปวดศีรษะจากอาการตึงของกล้ามเนื้อบ่า
หลายท่านมักจะคิดว่าเมื่อปวดศีรษะแล้วจะต้องมีอาการอะไรผิดปกติในศีรษะเราแน่ๆเลย แต่ว่าความจริงแล้วอาการปวดหัวเกิดขึ้นได้จากหลายๆสาเหตุ เช่น ไมเกรน ความเครียด หิว ฯลฯ แต่มีอาการปวดหัวชนิดหนึ่งเกิดจากอาการตึงของกล้ามเนื้อคอและบ่า เรียกว่า tension headache อาการปวดนี้จะมีอาการปวดไปทางด้านข้างศีรษะและอาจมีอาการปวดกระบอกตาร่วมไปด้วย การรักษาอาการคือต้องจัดการปัญหาที่กล้ามเนื้อบริเวณบ่า และเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ท่านจำเป็นจะต้องยืดกล้ามเนื้อคอและบ่าเป็นประจำอีกด้วย
2.อาการชาลงแขนหรือร้าวลงแขนเหมือนไฟช๊อต หรือแสบร้อน
หนึ่งในสาเหตุของอาการชาร้าว หรืออาการแปล๊บๆคล้ายไฟช๊อต หรืออาการแสบร้อนบริเวณผิวหนัง คือการบาดเจ็บของเส้นประสาท หรือเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงในบริเวณที่มีอาการถูกรบกวน ซึ่งในแต่ละบริเวณของแขนก็มีเส้นประสาทมาเลี้ยงที่ต่างกัน ยกตัวอย่าง…
หากมีอาการชาร้าว แปล๊บๆคล้ายไฟช๊อต หรือแสบร้อนบริเวณต้นแขนทางด้านนอกแสดงว่าอาการเกิดจากเส้นประสาทไขสันหลังระดับคอเส้นที่ 5 บาดเจ็บหรือถูกรบกวน หรือหากอาการดังกล่าวไปเกิดที่บริเวณท้องแขนก็อาจเกิดจากเส้นประสาทไขสันหลังระดับอกเส้นที่ 1 ถูกรบกวนครับ
การรบกวนเส้นประสาทเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น หมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาท กล้ามเนื้อตึงจนกดทับเส้นประสาท เกิดการบาดเจ็บจากการกระชาก และอื่นๆ ซึ่งหากมีอาการแบบนี้ควรมาปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อตรวจประเมินและวางแผนการรักษาต่อไปครับ
3. ไหล่ติดเคลื่อนไหวได้ไม่เต็มที่
อาการไหล่ติดเป็นโรคหนึ่งที่ค่อนข้างต้องใช้เวลาในการรักษาที่นานและใช้ความถี่ค่อนข้างสูง แต่สามารถรักษาได้ โดยอาการไหล่ติดมีทั้งแบบที่ทราบสาเหตุและไม่ทราบสาเหตุ อาการไหล่ติดที่ทราบสาเหตุ เช่น กระดูกบริเวณไหปลาร้า หรือชิ้นอื่นๆใกล้ๆข้อไหล่หักทำให้ไม่ได้ขยับไหล่จนสุดองศาการเคลื่อนไหวมาเป็นระยะเวลานานจนไหล่ติดในที่สุด หรือผู้ป่วยอ่อนแรงที่ขยับข้อต่อเองไม่ได้
สำหรับอาการไหล่ติดที่ไม่ทราบสาเหตุ ยกตัวอย่างเช่น โรค frozen shoulder อาการคือจะเริ่มจากเจ็บไหล่แบบแหลมๆและเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อขยับไหล่ ต่อมาจะเริ่มมีอาการเคลื่อนไหวไหล่ได้ไม่ดี เคลื่อนไหวได้ไม่สุดองศาการเคลื่อนไหว ทั้งสองแบบจะต้องได้รับการรักษาทางกายภาพบำบัดเพื่อให้ข้อต่อกลับมาเคลื่อนไหวได้ดีอีกครั้ง
4. อาการชาปลายมือ
อาการชาปลายมือมักจะเกิดได้บ่อยกับคนที่ต้องทำงานในลักษณะที่ต้องใช้ข้อมือเยอะๆ กำมือแน่นๆ นานๆ เช่นทำกับข้าว ขับรถจักรยานยนต์ ใช้เมาส์ เป็นต้น อาการชาปลายมือที่ควรมาพบนักกายภาพบำบัดคืออาการชาที่เกิดจากการกดทับเส้นประสาทที่บริเวณข้อมือหรือข้อศอก รักษาโดยการลดการกดทับในบริเวณที่มีการกดทับของเส้นประสาท
5. รู้สึกแน่นๆที่กระดูกสันหลัง
เนื่องจากว่ากิจกรรมในชีวิตประจำวันกระดูกสันหลังต้องรับแรงทั้งหมดของร่างกายส่วนบนและคอยซับแรงกระแทกต่างๆที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้อวัยวะภายในหรือร่างกายคงสภาพได้ ดังนั้นบริเวณกระดูกสันหลังจะเกิดแรงบีบอัดมากมายในแต่ละวันดังนั้นกระดูกสันหลังแต่ละข้อจะอัดกันแน่นบวกกับหากมีอาการกล้ามเนื้อตึงกระดูกสันหลังจะเคลื่อนไหวได้น้อยลง ทำให้รู้สึกอึดอัดหรือแน่นๆบริเวณกระดูกสันหลัง การที่กระดูกสันหลังอัดกันแน่นจนเกินไปเสี่ยงต่อการทำให้เกิดภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมหรือมีการอักเสบของข้อต่อบริเวณกระดูกสันหลังอีกด้วย
6. อาการปวดหลังส่วนล่างร้าวลงขา
อาการปวดหลังส่วนล่างร้าวลงขาเป็นอาการที่รบกวนชีวิตประจำวันและขัดขวางการทำงานเป็นอย่างมากเนื่องจากต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากๆ ขับรถทางไกลลำบาก ก้มตัวก็ยาก ยกของหนักแทบไม่ได้ และยังห้ามนอนในบางท่าอีกด้วย ซึ่งอาการนี้ต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีและเหมาะสมกับอาการ ดังนั้นหากมีอาการปวดหลังส่วนล่างร้าวลงขาแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดครับ
7. เจ็บๆที่ก้นและมีอาการเสียวแปล๊บไปที่ขา
อาการนี้เกิดจากการกดทับของเส้นประสาทที่ก้นถูกหนีบหรือรบกวนด้วยกล้ามเนื้อ piriformis ทำให้เกิดอาการเสียวแปล๊บลงไปที่ทางต้นขาด้านหลัง เดินก็มักจะมีอาการ หากมีอาการแบบนี้อย่าปล่อยไว้ครับ เข้ามาให้นักกายภาพบำบัดตรวจประเมินและวางแผนการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้อาการที่เป็นหนักขึ้น อาการนี้สามารถรักษาหายได้ค่อนข้างง่ายถ้าหากเป็นแล้วรีบมาดูอาการไม่ปล่อยไว้นาน
8. เดินนานๆแล้วเป็นตะคริว ขาหนักๆ เดินต่อไม่ไหว
อาการนี้เป็นอาการที่สืบเนื่องมาจากภาวะกระดูกสันหลังตีบแคบ อาการที่แสดงออกมาชัดเจนคือ เมื่อเดินไปสักระยะนึงจะรู้สึกว่า เท้าหนักๆ หนาๆ หรือล้าจนต้องนั่งพัก มักจะมีอาการเป็นตะคริวในช่วงกลางคืนร่วมด้วย การรักษาจะเป็นแบบรักษาตามอาการรวมถึงแนะนำการบริหารร่างกายเพื่อชะลออาการเสื่อมของกระดูกสันหลังที่เป็นปัจจัยหนึ่งของการตีบแคบ และเพิ่มการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังเพื่อลดการตีบแคบของกระดูกสันหลัง
9. อาการข้อต่อไม่มั่นคง
เป็นอีกหนึ่งอาการที่มักพบได้บ่อยมากๆ ส่วนใหญ่จะพบในผู้สูงอายุ แต่ในช่วงวัยอื่นๆก็สามารถพบได้ อาจเกิดได้จากความผิดปกติของข้อต่อเอง การประสบอุบัติเหตุ หรือความเสื่อมครับ ส่วนใหญ่คนที่เริ่มมีอาการข้อต่อไม่มั่นคงมักจะไม่รู้ตัวว่ากำลังมีปัญหานี้อยู่ กว่าจะรู้ตัวก็เป็นเยอะแล้ว อาการข้อต่อไม่มั่นคงสังเกตได้จาก ข้อต่อนั้นๆทำงานได้ไม่ค่อยดี มีอาการทรุด เคล็ด หรือข้อแพงบ่อยๆ หากใช้แรงก็มักจะมีอาการสั่น ยกตัวอย่างเช่น ภาวะข้อเข่าไม่มั่นคง คนที่มีภาวะนี้มักจะมาด้วยอาการรู้สึกว่า เข่าหวิวๆ เข่าทรุดง่าย ขึ้นลงบันไดมีอาการสั่นๆที่ข้อเข่า เข่ารับแรงในท่างอเข่าได้ไม่ดี ยกอีก 1 ตัวอย่างคือ ข้อเท้า คนที่มีภาวะข้อเท้าไม่มั่นคง จะมีอาการข้อเท้าพลิก/ข้อเท้าแพงได้ง่าย และมักจะเป็นอยู่บ่อยๆ ถ้าให้ยืนขาเดียวหรือยืนหลับตาก็จะเซๆ อาการข้อไม่มั่นคง
สามารถจัดการได้ด้วยการทำกายภาพบำบัดเพื่อเพิ่มความมั่นคงของข้อต่อนั้นๆครับซึ่งในรายละเอียดจะต่างกันออกไปในแต่ละเคสแต่ละสาเหตุ อาการไม่มั่นคงของข้อต่อหากปล่อยไว้นานจะสามารถนำไปสู่อาการเสื่อมของข้อต่อนั้นๆได้ ดังนั้นหากไม่มั่นใจว่าอาการที่ท่านเป็นอยู่นั้นใช่อาการไม่มั่นคงของข้อต่อไหม ท่านสามารถมาขอคำแนะนำหรือตรวจประเมินได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายที่ “คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness”
10. เจ็บแหลมๆใต้ผ่าเท้าเมื่อเดินลงน้ำหนัก
อาการเจ็บแหลมใต้ฝ่าเท้าขณะเดินลงน้ำหนักนี้เราเรียกว่า โรครองช้ำ หรือภาษาทางการแพทย์เราเรียกว่า plantar fasciitis เป็นโรคที่เกิดจากการเดินเยอะและมีอาการตึงของน่องสูง หรือมีอาการบาดเจ็บอื่นๆมาก่อนหน้า อาการเจ็บแหลมนี้จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป สะสมอาการบาดเจ็บขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อลงน้ำหนักก้าวแรกหลังตื่นนอนจะเจ็บแหลมมากๆ
โรครองช้ำนี้ควรเข้ามารักษาตั้งแต่อาการยังเป็นไม่มากเนื่องจากว่าหากปล่อยไว้อาการจะหนักขึ้นเรื่อยๆจากที่เจ็บแหลมใต้ฝ่าเท้าแค่ก้าวแรกๆที่ลงน้ำหนักหลังตื่นนอน อาการจะพัฒนาไปเป็นเจ็บทุกครั้งที่ลงน้ำหนัก ทำให้ส่งผลต่อการเดิน ไม่อยากเดิน ทานที่ต้องลงน้ำหนักที่เท้าไม่ค่อยได้ ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นเมื่อมีอาการแล้ว แนะนำให้รีบมาปรึกษานักกายภาพบำบัดครับ
ยังมีหลากหลายอาการที่ต้องทำกายภาพบำบัดที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ หรือรู้ช้าจนทำให้อาการที่เป็นนั้นหนักขึ้นจนการรักษาต้องใช้เวลานานขึ้นและยากมากขึ้น แต่ถึงไม่รู้ว่าอาการที่ท่านกำลังเป็นอยู่สามารถทำกายภาพบำบัดได้ไหมก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะว่า “คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness” มีบริการให้คำปรึกษาและตรวจร่างกายฟรี ดังนั้นท่านสามารถเข้ามาสอบถามและรับการตรวจร่างกายได้อย่างไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และการเข้ามาปรึกษาในแต่ละครั้งท่านจะได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อตัวท่านอย่างแน่นอนครับ