ปวดเข่าจากการออกกำลังกาย เป็นอะไรได้บ้าง

ปวดเข่าจากการออกกำลังกาย เป็นอะไรได้บ้าง

การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง อย่างไรก็ตาม อาการปวดเข่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ที่ออกกำลังกาย อาการปวดเข่าอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดจากการออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่หนักเกินไป หรือปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพข้อเข่า บทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุของอาการปวดเข่าจากการออกกำลังกาย ประเภทของการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น และแนวทางการรักษาอาการเหล่านี้ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและป้องกันการบาดเจ็บได้ดียิ่งขึ้น

ทำไมการออกกำลังกายถึงทำให้เกิดอาการปวดเข่าได้

การออกกำลังกายที่มีการใช้ข้อเข่าเป็นหลัก เช่น การวิ่ง การกระโดด และการยกน้ำหนัก สามารถก่อให้เกิดแรงกระแทกและแรงที่กระทำต่อข้อเข่าได้มาก เมื่อข้อเข่ารับภาระมากเกินไปหรือไม่ได้รับการฟื้นฟูหลังจากการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ จึงเกิดการบาดเจ็บสะสม และพัฒนาเป็นอาการปวดเข่าที่มากขึ้นได้

มีงานวิจัยทางการแพทย์หลายชิ้นบอกว่าการออกกำลังกายที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการไม่อบอุ่นร่างกายก่อนการออกกำลังกาย หรือการออกกำลังกายโดยที่กล้ามเนื้อรอบเข่าไม่แข็งแรง ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่เข่าได้มากขึ้น

การออกกำลังกายประเภทไหนทำให้ปวดเข่าได้กว่าปกติ

การออกกำลังกายบางประเภทส่งผลกระทบต่อข้อเข่าอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดเข่าได้ง่ายกว่าปกติ เช่น

  1. การวิ่ง: การวิ่งบนพื้นผิวที่แข็งหรือไม่เรียบทำให้เกิดแรงกระทำในข้อเข่าสูงมาก ทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่เอ็นข้อเข่าและกระดูกอ่อนที่เสียดสีกันอยู่ภายใน
  2. การยกน้ำหนัก: การยกน้ำหนักหนักเกินไปโดยไม่ได้ใช้ท่าทางที่ถูกต้องสามารถทำให้เกิดอาการปวดเข่าได้ การที่ข้อเข่ารับน้ำหนักที่หนักเกินไปอาจทำให้เอ็นและกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าบาดเจ็บและกลายเป็นอาการปวดเข่า
  3. การกระโดด: กีฬาหรือการออกกำลังกายที่มีการกระโดดซ้ำๆ เช่น บาสเกตบอลหรือวอลเลย์บอล ทำให้ข้อเข่ารับแรงกระแทกต่อเนื่อง ส่งผลให้เอ็นกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าและกระดูกอ่อนบาดเจ็บได้
  4. การออกกำลังกายที่ต้องหมุนข้อเข่า: กีฬาอย่างฟุตบอล เทนนิส หรือแบดมินตันที่ต้องหมุนข้อเข่าอย่างรวดเร็ว มักทำให้เอ็นข้อเข่าเกิดการฉีกขาด

โครงสร้างต่างๆ ที่สามารถบาดเจ็บได้จากการออกกำลังกาย

เมื่อเกิดอาการปวดเข่าจากการออกกำลังกาย โครงสร้างหลายส่วนในข้อเข่าอาจเกิดการบาดเจ็บได้ ซึ่งโครงสร้างที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้แก่

  1. กระดูกอ่อนข้อเข่า: กระดูกอ่อนทำหน้าที่รองรับแรงกระแทก หากเกิดการเสียดสีหรือบาดเจ็บ อาจส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดเรื้อรังที่ข้อเข่า
  2. เอ็นข้อเข่า: เอ็นที่อยู่รอบข้อเข่าช่วยยึดข้อเข่าให้มั่นคง หากเอ็นเหล่านี้บาดเจ็บ อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบและปวดในข้อเข่าได้
  3. กล้ามเนื้อรอบข้อเข่า: กล้ามเนื้อรอบข้อเข่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ข้อเข่าเคลื่อนไหว หากกล้ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บ เช่น การฉีกขาด อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดและขาดความมั่นคงของข้อเข่า

เอ็นในข้อเข่าอักเสบ

หนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยเมื่อปวดเข่าจากการออกกำลังกายคือ เอ็นข้อเข่าอักเสบ ซึ่งเกิดจากการใช้งานข้อเข่าอย่างหนัก ทำให้เอ็นเกิดการอักเสบจากการเสียดสีหรือแรงกดดันที่มากเกินไป เอ็นข้อเข่าที่อักเสบอาจทำให้รู้สึกปวดบวมบริเวณข้อเข่าและมีการเคลื่อนไหวที่จำกัด

เอ็นกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอักเสบ

เอ็นกล้ามเนื้อรอบข้อเข่ามีหน้าที่ช่วยพยุงข้อเข่าและป้องกันการบาดเจ็บ แต่การออกกำลังกายที่มีแรงกระทำต่อเข่าสูงในทิศทางต่าง ๆ หรือทำเป็นระยะเวลานานเกินไป อาจทำให้เอ็นกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอักเสบได้ งานวิจัยพบว่าการบาดเจ็บนี้เกิดขึ้นได้บ่อยในนักกีฬาที่ทำกิจกรรมซ้ำๆ เช่น การวิ่ง หรือการกระโดด

กล้ามเนื้อฉีกขาด

การฉีกขาดของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อรับภาระหนักเกินไปหรือใช้งานในลักษณะที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บอย่างรุนแรง การบาดเจ็บประเภทนี้มักเกิดจากการออกกำลังกายที่ต้องใช้ความเร็วและแรง เช่น ฟุตบอล แบดมินตัน เป็นต้น

DOMS (Delayed Onset Muscle Soreness)

DOMS คืออาการเจ็บกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก มักจะเกิดขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังจากการออกกำลังกาย อาการนี้เกิดขึ้นจากการที่กล้ามเนื้อมีการใช้งานเกิดการสะสมของของสียในกล้ามเนื้อ มีการบาดเจ็บเล็ก ๆ ที่เส้นใยกล้ามเนื้อ หรือเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่คุ้นเคย อาจมีความรู้สึกปวดตึงและความอ่อนล้าร่วมด้วย

Jump knee (Patellar Tendonitis)

Jump knee หรือ Patellar Tendonitis เป็นอาการบาดเจ็บที่พบได้บ่อยในนักกีฬาที่มีการกระโดดซ้ำๆ การใช้เอ็นกระดูกสะบ้าที่ข้อเข่าในการพยุงน้ำหนักระหว่างการกระโดด ทำให้เอ็นบริเวณนั้นเกิดการอักเสบและปวดได้ โดยเฉพาะในกีฬาประเภทบาสเกตบอล วอลเลย์บอล และกีฬาที่มีการกระโดดมาก อาการมักเกิดบริเวณด้านหน้าเข่า

อาการปวดเข่าจากการออกกำลังกายสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย รวมถึงการออกกำลังกายที่หนักเกินไป ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง หรือการใช้กล้ามเนื้อเกินขีดจำกัด การออกกำลังกายที่ต้องใช้ข้อเข่าเป็นหลัก เช่น การวิ่ง การกระโดด และการยกน้ำหนัก มักทำให้ข้อเข่าและกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าเกิดการบาดเจ็บได้บ่อย

ดังนั้น การป้องกันการบาดเจ็บที่เข่าจากการออกกำลังกายควรเริ่มต้นจากการเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ การวอร์มอัพอย่างเพียงพอก่อนเริ่มออกกำลังกาย นอกจากนี้ หากมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้น ควรหยุดพักและเข้ารับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามและกลายเป็นอาการเรื้อรังในอนาคต

การรักษาอาการปวดเข่าขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ หากเป็นการบาดเจ็บเล็กน้อยอาจใช้วิธีพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย แต่หากเป็นการบาดเจ็บที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาที่เหมาะสม หากว่าท่านมีอาการปวดเข่าจากการออกกำลังกาย สามารถเข้ามาให้เราตรวจร่างกาย หาสาเหตุ วางแผน ประเมินการรักษาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ คลินิกกายภาพบำบัด zenista health and wellness สาขาชลบุรี และเพชรบุรี ทั้ง 2 สาขา หรือสำรองคิวได้ที่ line: @zenista

บริการแนะนำ

กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

กายภาพบำบัด

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

รักษาข้อเข่าเสื่อม

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

รักษาออฟฟิศซินโดรม

รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง