ปวดคอ บ่า ไหล่ ทำไมถึงเกิดขึ้นบ่อย?

ปวดคอ บ่า ไหล่ ทำไมถึงเกิดขึ้นบ่อย?

 ในยุคที่ทุกคน active ทำงานหนัก เล่นหนัก ใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยง ร่างกายจึงต้องทำงานหนักขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ “อาการเจ็บป่วยของร่างกาย” หากพูดถึงอาการเจ็บป่วยของร่างกายที่เกิดจากการทำงาน เรามักจะนึกถึงอาการปวดบริเวณ คอ บ่า และไหล่ ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น วันนี้ เรามาไขข้อข้องใจกันครับ


อาการปวดคอ บ่า ไหล่ คืออะไร ?

 คืออาการไม่สุขสบายบริเวณคอ บ่า ไหล่ ในช่วงที่เป็นใหม่ ๆ จะมีอาการแค่รู้สึกตึง ๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่ออาการถูกกระตุ้นอยู่เรื่อย ๆ โดยการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการทำงาน อาการก็มักจะหนักขึ้น กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นเยอะจนเริ่มรักษายาก หรือต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานาน อาการเริ่มแรกจนถึงช่วงที่เป็นหนักจะเป็นอย่างไรบ้างมาดูกันครับ


อาการในระยะเริ่มแรก

-รู้สึกหนัก ๆ ตึง ๆ บริเวณคอ บ่า ไหล่ นาน ๆ ทีถึงเป็น

-เป็นไม่นาน พักจากการทำงานก็จะหายไปได้เอง

-บางครั้งทำงานหนักถึงจะมีอาการ บางครั้งแม้ทำงานหนักก็ไม่มีอาการ


อาการเมื่อเริ่มรุนแรงขึ้น

-มีอาการปวดบ่อยมากขึ้น

-ต้องใช้เวลาพักนานขึ้น ถึงอาการปวดจะหาย หรือแค่ทุเลาลง

-นั่งเฉย ๆ ก็มีอาการได้

-เริ่มมีอาการปวดศรีษะ หรือปวดกระบอกตา

-รู้สึกล้าบ่าง่าย ยกของนาน ๆ ไม่ได้เนื่องจากมีอาการล้า

-นอนไม่หลับ ทำอะไรก็ปวด

เมื่อเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ส่งผลต่อจิตใจ ไม่อยากทำงาน หงุดหงิดง่าย มีผลต่อคนรอบข้างครับ


อาการปวดคอ บ่า ไหล่ เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

 อาการปวดคอ บ่า ไหล่ เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวทำงานหนัก นาน และต่อเนื่อง ทำให้เกิดความตึงตัวภายในกล้ามเนื้อสูง และมีการเกร็งค้างแม้พยายามจะผ่อนคลายแล้วก็ตาม การไหลเวียนเลือดภายในจึงไม่ดี การขนส่งสารอาหาร สารซ่อมแซมของกล้ามเนื้อทำได้ไม่ดีตามไปด้วย รวมถึงการขับของเสียออกนอกกล้ามเนื้อก็แย่ลง เกิดการคลั่งของของเสียภายในกล้ามเนื้อ หากลองเอามือคลำๆดูจะพบเป็นก้อน ๆ เกร็ง และแข็ง เมื่อกดลงไปที่ก้อนดังกล่าวจะเจ็บ และรู้สึกร้าวไปที่บริเวณใกล้เคียง เช่น สะบัก ศีรษะ แขน เป็นต้น


ทำไมถึงเกิดได้บ่อย ?

1.กล้ามเนื้อขาดความยืดหยุ่นที่ดี และไม่แข็งแรง

2.มีการใช้งานซ้ำ ๆ ของกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ เช่น ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานตลอดวัน

3.นั่งทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น วางคีย์บอร์ด

4.เมื่อมีอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วไม่ได้รับการรักษา จนอาการหนักขึ้น

5.รักษาไม่ถูกวิธี ทำให้อาการกลับมาเป็นซ้ำ ๆ เรื่อย ๆ


จะดูแลตัวเองเบื้องต้นอย่างไรได้บ้าง หากมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่

1.ลองพักการใช้งาน แขน คอ บ่า ไหล่ เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวทำงานน้อยลง

2.หากพักใช้งานไม่ได้ ให้กำหนดการทำงานเป็นช่วง ๆ เช่น ทุก ๆ การทำงาน 1 ชั่วโมง ให้มีการหยุดพัก 15 นาที

3.ยืดกล้ามเนื้อบริเวณ คอ บ่า ไหล่

4.เดินผ่อนคลาย ยืดเส้นยืดสาย

5.ประคบร้อน/เย็น

6.หากทำแล้วอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้ปรึกษานักกายภาพบำบัดครับ


สำหรับอาการปวดคอ บ่า ไหล่นี้ เป็นอาการที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้ หรือเมื่อเป็นแล้ว ก็สามารถหายได้ หากป้องกัน และรักษาอย่างถูกวิธี ท่านสามารถขอคำปรึกษาที่เหมาะสมกับอาการของท่านได้จากนักกายภาพบำบัด และหากว่าไม่รู้จะปรึกษานักกายภาพบำบัดที่ไหน แนะนำมาที่ “คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness” ท่านจะได้รับบริการทางกายภาพบำบัดที่เหมาะสม และเฉพาะเจาะจงกับตัวท่านจากนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์ในการรักษา หากมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ให้นึกถึง “คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness” ครับ

Line ID : @zenista

บริการแนะนำ

กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

กายภาพบำบัด

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

รักษาข้อเข่าเสื่อม

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

รักษาออฟฟิศซินโดรม

รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง