
อาการปวดคอบ่าไหล่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนที่ทำงานนั่งโต๊ะหรือใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอบ่าไหล่เกิดการตึงตัวและปวดเรื้อรัง การรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่นั้นมีหลายวิธี แต่ไม่ใช่ทุกวิธีที่จะได้ผลดีในระยะยาว การใช้ยาลดปวดเป็นวิธีที่หลายคนเลือกใช้ แต่ก็อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด เพราะการใช้ยาบ่อยครั้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง ดังนั้น การทำกายภาพบำบัดเป็นทางเลือกที่ดีในการรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่โดยไม่ต้องพึ่งยา
อาการปวดคอบ่าไหล่มีอาการอย่างไร
อาการปวดคอบ่าไหล่มักจะเริ่มต้นจากความรู้สึกตึงหรือเจ็บในกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า และไหล่ ซึ่งอาจลามไปถึงหลังส่วนบนและศีรษะได้ อาการปวดนี้อาจเกิดขึ้นเมื่อทำงานในท่าเดียวเป็นเวลานาน หรือใช้คอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง บางครั้งอาจมีอาการปวดร้าวไปที่แขนหรือมือ ทำให้เกิดความรู้สึกชา หรืออ่อนแรงในบางกรณี อาการปวดคอบ่าไหล่จะแตกต่างจากอาการปวดทั่วไป เนื่องจากเกิดจากการตึงตัวของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีการใช้งานมากเกินไป
แนวทางการรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่ที่นิยม
1. การใช้ยาลดปวด
- ช่วยบรรเทาอาการปวดได้รวดเร็ว ง่ายและสะดวกในการใช้งาน แต่ในบางอาการการใช้ยาอาจไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ และอาจเกิดการพึ่งพายา หรือผลข้างเคียงจากการใช้ยาในระยะยาว เช่น ปวดกระเพาะอาหาร หรือเกิดอาการดื้อยา
2. การนวดเพื่อบรรเทาอาการปวด
- ช่วยคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนเลือดในบริเวณที่ปวด ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ถาวร และอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังมานานและกล้ามเนื้อมีความเกร็งตัวสูงหรือตึงกล้ามเนื้อมัดลึก
3. การออกกำลังกายเฉพาะส่วน
- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและปรับปรุงการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการปวดในอนาคต แต่อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และจำเป็นต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
4. การทำกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัดเป็นแนวทางการรักษาที่ได้รับความสนใจและพิจารณา สามารถมีส่วนช่วยลดอาการปวดได้ในผู้ป่วยหลายกลุ่ม ทั้งในระยะกึ่งฉับพลัน และเรื้อรัง
การทำกายภาพบำบัดสามารถช่วยลดอาการปวดคอบ่าไหล่ได้อย่างไร
การทำกายภาพบำบัดเป็นวิธีที่เน้นการฟื้นฟูและรักษากล้ามเนื้อและข้อต่อที่มีปัญหา โดยใช้อุปกรณ์และเทคนิคเฉพาะทาง ซึ่งช่วยลดอาการปวดและฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อและข้อต่อ อุปกรณ์ที่ใช้ในกายภาพบำบัดที่ช่วยลดอาการปวดคอบ่าไหล่ ยกตัวอย่างเช่น
1. เครื่องอัลตราซาวด์ (Ultrasound Therapy)
ใช้คลื่นเสียงในการลดอาการอักเสบและเพิ่มการไหลเวียนเลือดในบริเวณโครงสร้างที่มีอาการบาดเจ็บ เช่น เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ กล้ามเนื้อบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือทำงาน เป็นต้น
2. เครื่องช๊อคเวฟ (Shockwave)
ใช้คลื่นกระแทกรักษาบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง สะสม ทำให้ก้อนของเสียที่สะสมบริเวณกล้ามเนื้ออันเป็นต้นเหตุของอาการปวดคลำได้ก้อนๆในกล้ามเนื้อสลายไป
3. การใช้ความร้อนลึก(Indiba deep heat)
ใช้ความร้อนในการช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากขึ้น ลดอาการเกร็งและความตึงของกล้ามเนื้อ
4. การยืดและการนวดกล้ามเนื้อด้วยมือ (Manual Therapy)
เทคนิคการยืดและนวดที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ
ในแต่ละเคสจะมีวิธีการรักษา มีการเลือกเครื่องมือที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ลักษณะอาการ และประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ดังนั้นเมื่อมีอาการปวดสามารถพบนักกายภาพบำบัดเพื่อซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมินการรักษาครับ
การทำกายภาพบำบัดมีผลข้างเคียงหรือไม่
การทำกายภาพบำบัดถือเป็นวิธีการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นมักจะไม่รุนแรงและหายไปได้ในระยะเวลาสั้นๆ เช่น ความรู้สึกเจ็บหรือระบมในบริเวณที่ได้รับการรักษาหลังจากทำกายภาพบำบัด โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 24-48 ชั่วโมง และจะไม่ได้เกิดทุกครั้งที่รักษา นอกจากนี้การทำกายภาพบำบัดยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาใหม่ๆ ที่อาจเกิดจากการไม่เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนไหวไม่ถูกต้องอีกด้วย
การทำกายภาพบำบัดในผู้ป่วยที่มีอาการปวดคอบ่าไหล่เป็นแนวทางที่มีศักยภาพในการจัดการอาการปวดอย่างต่อเนื่องในระยะยาว นอกจากการรักษาในคลินิกแล้ว ท่านยังจะได้รับคำแนะนำเฉพาะตัวที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย และอาการของท่าน ที่คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness สาขาชลบุรี และสาขาเพชรบุรี เรามีบริการรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่โดยนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์สูง สนใจปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line id: @zenista เพื่อรับการดูแลที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ