
อาการปวดหลังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกช่วงวัย มักเกิดจากการทำงานหนัก การบาดเจ็บ หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ข้อเสื่อม หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือใช้กล้ามเนื้อมากเกินไป วิธีการรักษาปวดหลังมีหลายแบบ ตั้งแต่การใช้ยา กายภาพบำบัด ไปจนถึงการผ่าตัด แต่วิธีเหล่านี้อาจมีข้อจำกัดและผลข้างเคียง
หนึ่งในวิธีการรักษาที่กำลังได้รับความนิยมคือการใช้ “ช๊อคเวฟ (Shockwave Therapy)” ซึ่งใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อบรรเทาอาการปวดและกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาอาการปวดหลังด้วยช๊อคเวฟ ทั้งกลไกการทำงาน ประโยชน์ และข้อจำกัดของการรักษาด้วย ช๊อคเวฟครับ
ช๊อคเวฟคือการใช้คลื่นกระแทก ส่งเข้าสู่เนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ คลื่นกระแทกจะกระตุ้นเนื้อเยื่อให้เริ่มกระบวนการซ่อมแซม ช๊อคเวฟมักใช้รักษาอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ และปวดหลัง
เริ่มแรกช๊อคเวฟถูกนำมาใช้ในการรักษานิ่วในไต แต่ปัจจุบันถูกนำมาประยุกต์ใช้ในกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและกระดูก โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง
กลไกการทำงานของช๊อคเวฟในการรักษาอาการปวดหลัง
การรักษาด้วยช๊อคเวฟทำงานโดยส่งคลื่นเสียงเข้าไปยังเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาต่างๆ เช่น
- การเพิ่มการไหลเวียนของเลือด: คลื่นเสียงจะกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้มีการนำสารอาหารและออกซิเจนไปยังบริเวณบาดเจ็บมากขึ้น ช่วยให้เนื้อเยื่อฟื้นฟูเร็วขึ้น
- การกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่: ช๊อคเวฟช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ซึ่งจะซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย
- การลดความเจ็บปวด: ช่วยยับยั้งการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมอง ซึ่งส่งผลให้อาการปวดบรรเทาลง
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่สนับสนุนว่าช๊อคเวฟอาจมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดหลัง ตัวอย่างเช่น งานวิจัยใน The Journal of Orthopaedic Research พบว่าช๊อคเวฟช่วยลดอาการปวดและเพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังเรื้อรังได้ อีกหนึ่งการศึกษาใน Clinical Orthopaedics and Related Research พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยช๊อคเวฟมีอาการปวดลดลงถึง 60% ภายใน 3 เดือนหลังการรักษา
ข้อดีของการรักษาด้วยช๊อคเวฟ
- ไม่ต้องผ่าตัด: ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็วและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- ไม่เจ็บปวดรุนแรง: ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบหรือยาชา
- กระตุ้นการฟื้นฟูตามธรรมชาติ: การรักษาด้วยช๊อคเวฟช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูในระดับเนื้อเยื่อโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี
ข้อจำกัดของการรักษาด้วยช๊อคเวฟ
- ไม่เหมาะสำหรับทุกคน: ผู้ที่มีปัญหากระดูกหรือกล้ามเนื้อรุนแรงอาจไม่ได้
- ผลลัพธ์ใช้เวลา: ผู้ป่วยอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงเดือนเพื่อเห็นผลชัดเจน
- ราคา: ค่ารักษาด้วยช๊อคเวฟค่อนข้างสูง และบางครั้งอาจไม่ครอบคลุมโดยประกันสุขภาพ
ขั้นตอนการรักษาด้วยช๊อคเวฟ
- การเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการเข่าเสื่อมและสภาพร่างกายของผู้ป่วย โดยมีแนวทางดังนี้
- การรักษาด้วยความร้อนลึก เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดเข่าไม่รุนแรงหรือมีอาการเพียงชั่วคราว เช่น ปวดหลังใช้งานเข่าอย่างหนัก
- การบำบัดด้วยอัลตราซาวด์ เหมาะกับผู้ที่มีอาการอักเสบเรื้อรังและปวดปานกลางถึงรุนแรง วิธีนี้ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การฉีด PRP เหมาะกับผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูเนื้อเยื่อในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ในระยะเริ่มต้นถึงปานกลางของเข่าเสื่อม ซึ่งต้องการการรักษาที่เน้นการฟื้นฟูอย่างถาวร
การรักษาด้วยช๊อคเวฟเป็นทางเลือกใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดหลังเรื้อรัง ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูของร่างกายโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้ยา อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสำหรับทุกคน ดังนั้นการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
หากท่านเป็นคนหนึ่งที่มีอาการปวดหลังและกำลังหาทางรักษา สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ คลินิกกายภาพบำบัด zenista health and wellness ทั้งสาขาชลบุรี และเพชรบุรี หรือสำรองคิวได้ที่ line id : @zenista