จะเป็นอย่างไรถ้าปวดเข่าแล้วไม่ได้รับการรักษา

จะเป็นอย่างไรถ้าปวดเข่าแล้วไม่ได้รับการรักษา

สวัสดีทุกๆ ท่านครับวันนี้เรามาคุยกันเรื่องอาการของเข่าเช่นเคยแต่วันนี้เราจะเน้นไปที่ผลเสียของการที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาเมื่อมีอาการบาดเจ็บหรือปวดเข่ากันครับ เรื่องเล็กๆ สามารถทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ดังคำกล่าวที่ว่า “น้ำผึ้งหยดเดียว” เข่าก็เช่นกัน อาการปวดเข่าที่มีอาการไม่มากแต่กลับสามารถส่งผลร้ายแรงได้ อาการที่ว่าส่งผลร้ายแรงได้อย่างไร? วันนี้เรามาทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันครับ

 

อันดับแรกผมขออธิบายเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บหรือความรู้สึกเจ็บปวดของร่างกายกันก่อนนะครับ ระบบส่วนใหญ่ของร่างกายมักจะมีสมองเป็นผู้ควบคุม ระบบความเจ็บปวดจะเริ่มทำงานเมื่อมีอะไรที่อันตรายต่อร่างกายหรือชีวิตมากระตุ้น เช่น การถูกไปลวก การหยิก เมื่อถูกกระตุ้นร่างกายจะส่งสัญญาณไปที่สมอง และสมองจะส่งสัญญาณความเจ็บปวดกลับมาที่บริเวณเดิมที่ถูกกระตุ้น เกิดเป็นความเจ็บปวดขึ้นมาและเกิดการตอบสนองต่ออันตรายนั้น เช่น ชักมืออกมาจากไฟที่ลวกมือ เป็นต้น นี่คือวงจรความเจ็บปวดแบบคร่าวๆ หรือสรุปให้ง่ายที่สุดคือ “ความเจ็บปวดมีไว้เพื่อป้องกันร่างกายจากอันตราย ให้เรารู้ตัวว่าต้องหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อรอดจากอันตรายนี้” ถ้าเข้าใจคอนเซ็ปท์นี้แล้ว เราไปต่อกันเลยครับ

อาการบาดเจ็บเมื่อเป็นมากขึ้นก็ยิ่งหายได้ช้า

ในชีวิตของเรา เราใช้เข่าในทุกๆวัน ย่อมมีการข้อเข่าเสื่อมบาดเจ็บสะสมเล็กๆน้อยในระดับที่ไม่เป็นอันตรายจึงไม่มีอาการปวดเนื่องจากว่าร่างกายสามารถฟื้นฟูได้ตามกลไกลปกติ แต่เมื่อการบาดเจ็บครั้งนี้ได้รับการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซ้ำๆ จนในที่สุดเกิดอาการปวดขึ้นมาจนท่านรู้สึกได้ นั่นเป็นสัญญาณที่ร่างกายบอกว่า “บริเวณเข่าริ่มมีอันตรายแล้วนะ หาทางทำอะไรสักอย่างสิ” บางคนอาจจะหาทางรักษาทันทีแม้จะมีอาการเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย อันนี้ถือว่าดีเยี่ยมครับเนื่องจากว่าอาการที่เกิดขึ้นเล็กๆนั้นจะหายได้ง่ายมาก แต่สำหรับบางท่านที่ไม่ได้รักษา อาจจะด้วยความชะล่าใจหรือเหตุผลใดๆก็ตามแต่ อาการเจ็บปวดบริเวณเข่าจะค่อยๆเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับการเดินการทำกิจกรรมในทุกๆวันที่เป็นตัวกระตุ้นการบาดเจ็บบริเวณเข่าอย่างต่อเนื่อง ที่นี้สมองก็จะต้องเพิ่มการส่งสัญญาณความเจ็บปวดมาที่เข่ามากขึ้นเพื่อแจ้งเตือนว่า “ไม่ได้แล้วนะ อาการเป็นมากขึ้นแล้ว ต้องรักษาอย่างจริงจังแล้ว” และเมื่อมีความเจ็บปวดที่เข่ามากขึ้น ก็ย่อมส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากแน่นอน และอาการบาดเจ็บเมื่อเป็นมากขึ้นก็ยิ่งหายได้ช้า รักษายากมากขึ้นตามไปด้วย ในคนวัยหนุ่มสาว วัยทำงานอาจจะส่งผลถึงการเข้าสังคม การออกกำลังกายได้อย่างจำกัด ทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีข้อจำกัด แต่ในช่วงวัยของผู้สูงอายุ หากมีอาการปวดเข่าแล้วไม่ได้รักษา นั่นย่อมส่งผลไปถึงระบบอื่นๆของร่างกายอย่างชัดเจน ผมจะขอยกตัวอย่างเป็นเคสสมมุติแบบนี้นะครับ คุณยายคนหนึ่งสุขภาพโดยรวมดี ไม่มีโรคประจำตัว เกิดอาการปวดเข่าจากการเดินเยอะ คุณยายคิดว่าเดี๊ยวอาการคงจะหายเองได้เลยไม่ได้รักษาและทนเดินต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดอาการปวดเข่าเริ่มรุนแรงขึ้นทำให้ไม่อยากเดิน การเดินน้อยลงหรือการไม่เดินเลยในผู้สูงอายุจะส่งผลเสียไปที่ระบบอื่นๆอย่างชัดเจน ต่างจากวัยหนุ่มสาวหรือวัยทำงานที่มักจะส่งผลไปยังโครงสร้างที่อยู่รอบๆเข่าข้างที่บาดเจ็บก่อน ระบบแรกๆของผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้นหลังจากเดินน้อยลงจากอาการปวดเข่าคือ ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อจะอ่อนแรงลงหากไม่ได้มีการใช้งานหรือใช้น้อยจากการสลายหรือเล็กลงของกล้ามเนื้อนั้นๆ หากให้เปรียบเทียบอย่างชัดเจนให้ลองนึกภาพนักกล้ามที่กล้ามใหญ่กว่าคนทั่วไปเนื่องจากมีการใช้กล้ามเนื้อยกของหนักเป็นประจำครับ ที่นี้เรามาต่อที่กล้ามเนื้อของผู้สูงอายุกันต่อ เมื่อเริ่มมีการอ่อนแรงลงของกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อม การทรงตัว การบริหารร่างกาย การเคลื่อนไหวต่างๆก็จะแย่ลง ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ง่ายมากขึ้น ล้มง่าย และส่งผลต่อระบบอื่นๆในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ระบบต่อมาที่จะได้รับผลกระทบก็คือระบบหัวใจ หายใจ และหลอดเลือด เมื่อร่างกายอ่อนแอลงการไหลเวียนเลือดก็จะทำงานลดลงเวียนหัวง่าย ปอดจะเหนื่อยง่ายทำอะไรที่เคยทำได้น้อยลง และส่งผลต่อสภาพจิตใจในที่สุด หากจะให้ไล่เหตุการณ์ต่อก็จะต้องไล่ไปทุกระบบและบทความจะยาวมากๆหรืออาจไปสิ้นสุดที่ติดเตียงหรือเสียชีวิต

 

เห็นไหมครับจากคนสุขภาพดีเพียงแค่เจ็บเข่าเล็กๆน้อยก็ส่งผลได้ใหญ่โตในแบบที่เราก็คาดไม่ถึง เพราะฉะนั้นอย่าละเลยที่จะดูแลเข่าของท่านหรือคนที่ท่านรักให้ดี อย่าละเลยเพราะเห็นเป็นเพียงแค่อาการเล็กๆน้อยๆ คงจะหายเองได้ มีอาการเล็กน้อยก็สามารถมาปรึกษาได้ “ยิ่งเป็นน้อย ยิ่งรักษาง่าย” ผมย้ำคำนี้อยู่เสมอ

 

ผมไม่ได้บอกว่าทุกๆคนที่มีอาการปวดเข่าแล้วจะต้องรุนแรงไปทุกครั้ง แต่ท่านก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าอาการที่เกิดขึ้นมานั้นจะรุนแรงได้แค่ไหน ดังนั้น “ปรึกษานักกายภาพบำบัดเถอะครับ” ถ้าหากไม่รู้จะปรึกษาใคร เรา “คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness” ยินดีให้บริการท่านเสมอ และที่คลินิกยังมีบริการให้คำปรึกษา แนะนำทหรือทดลองการรักษาทางกายภาพบำบัดฟรีอีกด้วย เมื่อท่านมาแล้วสิ่งที่จะได้กลับไปคือ ท่านจะรู้จักเข่าของท่านดีขึ้น รู้วิธีการดูแลรักษาเข่าที่ถูกต้อง และการบริการที่ดีเยี่ยมจากพวกเราครับ

บริการแนะนำ

กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

กายภาพบำบัด

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

รักษาข้อเข่าเสื่อม

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

รักษาออฟฟิศซินโดรม

รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง