หลายหลายคนคงใช้ชีวิตแบบคนเมือง ชีวิตแบบคนเมืองเป็นอย่างไร ชีวิตที่มีสูดดมฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ชีวิตที่จะต้องกินอาหารเจือปนสารเคมี ชีวิตจะต้องเจอมลภาวะแทบจะตลอดเวลา คนเมืองไม่ใช่เฉพาะแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น เมืองอื่นๆ ที่ใกล้โรงงานอุตสากรรม เช่นกัน
สารเคมีที่เสี่ยงได้รับเข้าสู่ร่างกายเหล่านั้นมีอะไรบ้าง มีผลเสียอย่างไรกับสุขภาพของเราบ้าง ?
สารปนเปื้อนที่มาพร้อมกับอาหาร
- สารเร่งเนื้อแดงในเนื้อสุกร
- สารกันราหรือกรดซาลิซิลิค
- สารบอแรกซ์
- สารฟอร์มาลิน หรือสารละลายฟอร์มาลดีไฮด์
- ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
สารโลหะหนักใกล้ตัวที่สุดที่คุณจะต้องคีเลชั่นช่วย สารโลหะหนักตะกั่วแคทเมี่ยมคาร์บอน ซึ่งสารโลหะหนักบางอย่างที่มาก็ใกล้ตัวเราจนอาจมองข้าม เช่น เครื่องสำอางค์ ตลอดซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย สิ่งเหล่านั้นเป็นสารก่อมะเร็งโรคฮิตอันดับ 1 ของคนไทย พอมาถึงตรงนี้คุณรู้สึกไหม ว่ามะเร็งเริ่มใกล้ตัวคุณเข้ามาทุกที และคีเลชั่นเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นตัวช่วยอย่างดี
คีเลชั่น คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร กระบวนการทำงานเป็นอย่างไร ?
คีเลชั่น คืออะไร (Chelation Therapy)
การทำคีเลชั่น เพื่อขจัดสารพิษ และโลหะหนักในร่างกาย
คีเลชั่น คือ การล้างพิษหลอดเลือด ผ่านทางน้ำเกลือ ที่มีสารประกอบประเภทกรดอะมิโน ที่เรียกว่า EDTA ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ ต่างๆ ซึ่ง EDTA ทำหน้าที่สำคัญ ในการจับสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู หรือแม้แต่แคลเซียมส่วนเกินซึ่งสะสมตกค้างในเนื้อเยื่อและพอกอยู่ตามผนังหลอดเลือดของเราแล้วขจัดสารโลหะหนักเหล่านี้ออกผ่านระบบปัสสาวะ ระยะเวลาในการให้น้ำเกลือแต่ละครั้งประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างที่ให้น้ำเกลือ สามารถพักผ่อน ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือหรือฟังเพลงได้ปกติ ภายหลังเสร็จการรักษาสามารถประกอบกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม
อาการแสดงเมื่อมีสารพิษโลหะหนักสะสมในร่างกาย
- ปวดศีรษะบ่อย หงุดหงิด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ง่วงนอน สมาธิไม่ดี ความจำเสื่อม
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อและกระดูก รูมาตอยด์
- ท้องผูกเรื้อรัง ปากเหม็น กลิ่นตัวแรง
- ปัญหาผิวพรรณ สิว ฝ้า
- หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นลมพิษง่าย
- ระบบเผาผลาญทำงานน้อยลง ทำให้อ้วนง่าย
- เบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ ผายลมบ่อยๆ
- โรคผิวหนังเรื้อรัง ผื่นคัน เป็นแผล เป็นฝีบ่อยๆ
โลหะหนักอันตรายต่อชีวิตอย่างไร
- เซลล์เสื่อม ตาย กลายพันธุ์
- ก่อเกิดมะเร็งต่างๆ
- เปลี่ยนแปลงโครงสร้างยีน พันธุกรรม
- ก่อเกิดโรคเรื้อรัง NCDs
- คุณภาพชีวิตต่ำลง
คีเลชั่นเหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือด เช่น อุดฟันด้วยโลหะ อมัลกัม มีไขมันในเส้นเลือดสูง มี oxidative stress (ระดับอนุมูลอิสระสูง) เช่น ดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือใกล้ชิดกับผู้ที่สูบบุหรี่ ฯลฯ
- ผู้ที่มีปัญหาสารพิษโลหะสะสมและปัญหาสารพิษอื่นๆ สะสมในร่างกาย
- ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ การไหลเวียนโลหิตบกพร่อง มีอาการ เช่น เวียนหัวง่าย ฯลฯ
- ผู้ที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากหลอดเลือดไม่ยืดหยุ่น
- ผู้ที่แข็งแรงดี แต่ต้องการป้องกันตนเองจากโรคมะเร็งและโรคเส้นเลือดตีบตัน รวมทั้งต้องการกำจัดสารพิษและโลหะหนักออกจากตัว และต้องการรักษาสภาพของเส้นเลือดทั่วตัว ไม่ให้เกิดการอุดตันในอนาคต
- ผู้ที่ไปทำบอลลูนเส้นเลือด ใส่ขดลวด ทำบายพาสมาแล้ว เพราะจะเกิดการอุดตันใหม่เกิดขึ้น ซึ่งการทำคีเลชั่นจะลดปัญหาเหล่านั้นได้
ประโยชน์และผลที่จะได้รับ
- ลดการอุดตันในหลอดเลือดทั้งในสมองและหัวใจ
- ลดการเกิดโรคหัวใจกำเริบ
- ลดความดันโลหิต
- ลดอาการอักเสบของผิวหนัง
- ลดการเกิดข้ออักเสบ
- ลดอาการหอบหืด ภูมิแพ้
- ระบบการหมุนเวียนโลหิตทั่วไปดีขึ้น (เส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจ,มือและเท้า ฯลฯ
- ช่วยให้ประสาทการรับรู้ต่างๆ เช่น รสชาติ ภาพ เสียงดีขึ้น
- บรรเทาอาการเหน็บชา
- ระบบการทำงานของปอดดีขึ้น
- ลดโอกาสเกิดมะเร็ง
- ลดระดับไขมันในเลือด
- ลดโอกาสสูญเสียอวัยวะ
- เพิ่มมวลกระดูก
- คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ดีขึ้น
- ช่วยให้สมองแจ่มใส ช่วยให้ความจำดี
- บรรเทาอาการอัลไซเมอร์
- ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ
- ช่วยให้อาการอ่อนเพลียเรื้อรังหมดไป
ขั้นตอนในการทำ “คีเลชั่น” (Chelation)
ให้ทางหลอดเลือด (IV EDTA)
สามารถเข้ารับการรักษาโดยการให้น้ำยาทางเส้นเลือด ซึ่งจะใช้เวลาต่อครั้งประมาณ 2 ชั่วโมง โดยที่ระหว่างการให้ยานั้น สามารถรับประทานของว่าง ขนม ผลไม้ เครื่องดื่ม หรือชมรายการโทรทัศน์ไปด้วยได้
ควรทำบ่อยแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ จำนวนครั้งมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และโรคที่คนไข้เป็น
คีเลชั่น มีความปลอดภัยหรือไม่
ปลอดภัย เพราะคีเลชั่น ใช้สาร EDTA ผ่านการยอมรับจากแพทย์แล้วทั่วโลก โดยการนำไปใช้ในผู้ป่วยกว่าสองล้านคนและด้วยจำนวนในการใช้มากกว่า 8 ล้านครั้ง ยังไม่เคยพบพบว่าผู้ใช้เกิดปฏิกิริยาที่เป็นลบจากการใช้สาร EDTA เลยแม้แต่รายเดียว
ก่อนทำ Chelation แพทย์จะมีการตรวจผลเลือดเพื่อดูสภาวะการทำงานของไตและหลอดเลือดก่อน
ผลข้างเคียงในการทำคีเลชั่น
ในระยะ 24-48 ชั่วโมง บางท่านอาจมีอาการอ่อนเพลีย อันเนื่องมาจากกระบวนการขับของเสียออกจากร่างกาย อาการที่เกิดขึ้นแก้ไขได้ โดยการดื่มน้ำให้มากขึ้น อย่างน้อย 2-3 ลิตร พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำผลไม้และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตามความต้องการของร่างกาย
ท่านสามารถเข้ามาขอคำปรึกษาจากนักกายภาพบำบัด “คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness” เพื่อทราบวิธีที่เหมาะกับตัวของท่านได้ครับ
ที่มา : https://theworldmedicalcenter.com/
ที่มา : สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ เรียบเรียงโดย : ZENISTA