
ข้อเข่าเสื่อม เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือผู้ที่มีการใช้งานข้อเข่ามากเกินไป เช่น นักกีฬาและผู้ที่ทำงานหนัก โรคนี้เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนภายในข้อเข่า ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด การจำกัดการเคลื่อนไหว และในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดการผิดรูปของข้อเข่า กระดูกอ่อนเป็นส่วนสำคัญในการรองรับแรงกระแทกของกระดูกในข้อเข่า ถ้ากระดูกอ่อนเสื่อมหรือถูกทำลายลง จะทำให้กระดูกเกิดการเสียดสีกันโดยตรง เกิดการอักเสบและความเจ็บปวดขึ้นได้
การรักษาข้อเข่าเสื่อมมักจะเน้นที่การบรรเทาอาการปวดและลดการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อน มีวิธีการรักษาหลายรูปแบบตั้งแต่การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การใช้ยา การทำกายภาพบำบัด ไปจนถึงการผ่าตัด แต่ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการหาวิธีการรักษาที่ไม่ต้องพึ่งพายาและการผ่าตัด การรักษาด้วย เครื่อง Shockwave Therapy จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
การรักษาด้วยเครื่อง Shockwave คืออะไร?
เครื่อง Shockwave Therapy หรือ การรักษาด้วยคลื่นกระแทก เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นกระแทกส่งแรงผ่านเข้าไปยังบริเวณที่เกิดปัญหา เช่น บริเวณข้อเข่าที่เสื่อม คลื่นพลังงานเหล่านี้จะกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมร่างกายโดยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ การรักษาด้วยวิธีนี้ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บทางกีฬาหรือการอักเสบของเนื้อเยื่ออ่อนมานานแล้ว และในช่วงหลังมีการนำมาประยุกต์ใช้ในการรักษาข้อเข่าเสื่อมด้วย
Shockwave มีสองประเภทหลัก คือ
- Radial Shockwave: คลื่นกระแทกที่ถูกปล่อยออกมาในรูปแบบวงกว้าง ซึ่งเหมาะสำหรับการรักษาพื้นที่กว้างที่ต้องการกระตุ้นการฟื้นฟู
- Focused Shockwave: คลื่นกระแทกที่ถูกส่งอย่างแม่นยำไปยังจุดที่เป็นปัญหา เหมาะสำหรับการรักษาบริเวณเล็กและลึก
เครื่อง Shockwave จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์และเนื้อเยื่อบริเวณที่ได้รับคลื่นกระแทกเกิดการฟื้นฟูเร็วขึ้น ผ่านกระบวนการกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่และการซ่อมแซมเนื้อเยื่อเสียหาย
ประโยชน์ของการใช้ Shockwave Therapy ในการรักษาข้อเข่าเสื่อม
การรักษาด้วยเครื่อง Shockwave เป็นแนวทางที่มีศักยภาพสำหรับผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม โดยเฉพาะในด้านการลดอาการปวดและการฟื้นตัวจากการเสื่อมของข้อเข่า ประโยชน์สำคัญของการใช้ Shockwave Therapy คือ
ช่วยลดอาการปวด: Shockwave ช่วยลดอาการปวดของกล้ามเนื้อและเอ็นรอบข้อเข่า กระบวนการปล่อยคลื่นกระแทกจะกระตุ้นการหลั่งสารเอนโดรฟินซึ่งเป็นสารธรรมชาติของร่างกายที่ช่วยลดความเจ็บปวดได้
ส่งเสริมการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อ: คลื่นกระแทกช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยเฉพาะในบริเวณกระดูกอ่อนที่เสื่อมสภาพ ช่วยเพิ่มการสร้างเซลล์ใหม่และการสร้างเส้นเลือดใหม่ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด: Shockwave Therapy กระตุ้นการไหลเวียนเลือดในบริเวณที่รักษา ซึ่งส่งผลให้เนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูมากขึ้น
เพิ่มความยืดหยุ่นและส่งเสริมการเคลื่อนไหวให้ดีขึ้น: การลดอาการปวดและการฟื้นฟูเนื้อเยื่อจะช่วยให้ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมมีการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อเข่าฝืดหรือตึง
การรักษาข้อเข่าเสื่อมด้วย Shockwave ดีจริงหรือไม่
มีงานวิจัยหลายฉบับที่สนับสนุนแนวคิดการใช้ Shockwave Therapy ในการรักษาข้อเข่าเสื่อม โดยผลการวิจัยบางส่วนแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเครื่อง Shockwave อาจมีการฟื้นตัวที่เทียบเท่าหรือเร็วกว่าเมื่อเทียบกับวิธีการรักษาแบบอื่น ๆ เช่น การใช้ยา ในงานวิจัยบางชิ้นพบว่าการรักษาด้วยคลื่นกระแทกอาจช่วยลดความเจ็บปวดได้ในระดับหนึ่งหลังจากการรักษาเพียงไม่กี่ครั้ง และผู้ป่วยจำนวนมากยังรายงานว่าความยืดหยุ่นของข้อเข่าและความสามารถในการเคลื่อนไหวดีขึ้นด้วย
ข้อดีและข้อเสียของการรักษาด้วย Shockwave Therapy
การรักษาด้วยเครื่อง Shockwave Therapy มีข้อดีหลายประการ เช่น
ไม่ต้องผ่าตัด: Shockwave Therapy เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงและการฟื้นตัวที่นานจากการผ่าตัด
ไม่มีผลข้างเคียงจากยา: ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องใช้ยาลดปวดหรือยาแก้อักเสบในการรักษาด้วย Shockwave จึงไม่มีความเสี่ยงจากการใช้ยาในระยะยาว
ฟื้นตัวได้รวดเร็ว: ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังการรักษา และไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยเครื่อง Shockwave ก็มีข้อเสียบางประการเช่นกัน คือ
อาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่ม: ผู้ป่วยบางกลุ่ม ไม่สามารถเข้ารับการรักษาด้วยเครื่อง Shockwave Therapy ได้ เช่น ผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุนขั้นรุนแรง หรือผู้ที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณที่ต้องการรักษา นอกจากนี้ยังอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะติดเชื้อเฉพาะจุดหรือผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดข้อเข่ามาไม่นาน
การรักษาอาจไม่ได้ผลในทุกกรณี: แม้ว่าการรักษาด้วย Shockwave จะช่วยลดอาการปวดและเพิ่มการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยหลายราย แต่ก็มีบางกรณีที่ผู้ป่วยอาจไม่ได้รับผลที่ดีตามคาดหวัง บางรายอาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่นร่วมด้วยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการรักษา
หลังจากการรักษาด้วยเครื่อง Shockwave Therapy ผู้ป่วยยังคงต้องดูแลข้อเข่าและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อเข่ากลับมาเสื่อมสภาพอีก โดยการปฏิบัติตามนี้ครับ
การออกกำลังกายที่เหมาะสม: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ข้อเข่าแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น กิจกรรมที่เหมาะสม เช่น การเดิน การว่ายน้ำ หรือการปั่นจักรยาน ซึ่งช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าโดยไม่สร้างแรงกระแทกมากเกินไป
การปรับท่านั่งและการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน: การนั่งหรือยืนในท่าที่ถูกต้องจะช่วยลดแรงกดดันที่ข้อเข่า เช่น หลีกเลี่ยงการนั่งงอเข่าเป็นเวลานาน หรือการยืนนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนท่าทาง
การควบคุมน้ำหนัก: น้ำหนักที่มากเกินไปจะเพิ่มแรงกดทับที่ข้อเข่า ทำให้ข้อเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การควบคุมน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดูแลข้อเข่าในระยะยาว
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: อาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูงช่วยเสริมสร้างกระดูกและข้อเข่า นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ และปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 จะช่วยลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้ครับ
การรักษาด้วยเครื่อง Shockwave Therapy ต้องดำเนินการภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ หรือนักกายภาพบำบัด ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจร่างกายก่อนเข้ารับการรักษาเพื่อประเมินความเหมาะสมของวิธีการนี้ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวหรือเงื่อนไขทางการแพทย์อื่น ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อการรักษา
กลุ่มผู้ป่วยที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่อง Shockwave ได้แก่
- ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือดหรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุนขั้นรุนแรง
- ผู้ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ฝังในร่างกาย เช่น โลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อบริเวณข้อเข่าที่ต้องการรักษา
การเลือกสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการใช้เครื่อง Shockwave Therapy เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากเครื่องมือและเทคนิคในการรักษาต้องการความแม่นยำและการควบคุมอย่างดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
สุดท้ายนี้ การดูแลตัวเองหลังการรักษา เช่น การออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนัก และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ข้อเข่าเสื่อมสภาพอีก และช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษาด้วยเครื่อง Shockwave Therapy ยั่งยืนในระยะยาว หากท่านเป็นคนหนึ่งสนใจการรักษาด้วยเครื่อง Shockwave ท่านสามารถเข้ามาที่ คลินิกกายภาพบำบัด Zenista health and wellness สาขาชลบุรี และเพชรบุรีทั้ง 2 สาขา เพื่อให้นักกายภาพบำบัดได้ตรวจประเมินร่างกาย วางแผนการรักษา หรือจองคิวได้ที่ line:@zenista