ข้อดีของการฉีด PRP ในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม

ข้อดีของการฉีด PRP ในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม

ข้อดีของการฉีด PRP ในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม

ข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากการสึกกร่อนของกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อนที่รองรับน้ำหนักตัวและลดแรงกระแทกของข้อเข่า ทำให้เกิดอาการปวด ติดขัด และเสียดสีของกระดูกข้อต่อ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีการใช้งานข้อเข่าอย่างหนักเป็นประจำ


การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมมีหลายวิธี เช่น การกินยา การทำกายภาพบำบัด การฉีดยาสเตียรอยด์ หรือการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าครับ แต่วิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ก็ข้อดี มีข้อเสีย ผลข้างเคียงต่างกันไป หรือบางท่านอาจเคยใช้วิธีเหล่านี้แล้ว แต่ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง ดังนั้น การฉีด PRP หรือ Platelet Rich Plasma จึงเป็นทางเลือกการรักษาที่น่าสนใจ โดยการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นที่มีสารเร่งการเจริญเติบโต (Growth Factor) ไปยังบริเวณที่เสื่อมสภาพ ช่วยลดอาการปวด อักเสบ และเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อให้กลับมาดีขึ้นได้ครับ


ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับการฉีด PRP ว่ามีข้อดีอะไรบ้าง และเหมาะกับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมในระยะใด หากท่านเป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจในเรื่องของการฉีด PRP เชิญติดตามต่อได้เลยครับ


PRP คืออะไร

PRP หรือ Platelet Rich Plasma คือ การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น ที่ได้จากการนำเลือดของตัวผู้ป่วยเองเพียงเล็กน้อย มาทำการปั่นเพื่อแยกจนได้เป็นพลาสมาเกล็ดเลือดเข้มข้น จากนั้นแพทย์จะฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บ ในเคสที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมแพทย์จะฉีดไปที่บริเวณเข่า เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด และลดการอักเสบของเนื้อเยื่ออ่อนต่าง ๆ ภายในข้อเข่า เป็นการเร่งกระบวนการซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ หรือโครงสร้างที่เกิดความเสียหายให้กลับมาดีได้เร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย


ข้อดีของการรักษาด้วยการฉีด PRP

การรักษาด้วยการฉีด PRP มีข้อดีอย่างน้อย 5 ข้อ ดังนี้

1. มีผลข้างเคียงน้อย หรือแทบไม่มีเลย ลดโอกาสการเกิดอาการแพ้ และภาวะแทรกซ้อนได้มาก เนื่องจากการรักษาด้วยวิธีนี้ เป็นการนำเลือดของผู้ป่วยเองมาใช้

2. รักษาได้ตรงจุด ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด มีความปลอดภัยสูง ไม่เกิดรอยแผลเป็น

3. ช่วยลดอาการปวด อักเสบ และเสียดสีของกระดูกข้อเข่า โดยการกระตุ้นให้เกิดการหลั่ง Growth Factor เพื่อซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้เร็วกว่ากลไกปกติ

4. ชะลอความเสื่อมสภาพของข้อเข่า ลดความต้องการการใช้ยาลดปวด หรือการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า

5. ผลการรักษาอยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 2 ปี และสามารถฉีดซ้ำได้


การฉีด PRP เหมาะกับอาการแบบไหน และกับใคร

การฉีด PRP เหมาะกับผู้ที่มีอาการเสื่อมของข้อเข่าในระยะที่ 1-3 หรือผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่เคยได้รับการรักษาด้วยวิธีกินยา หรือทำกายภาพบำบัดแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น


การฉีด PRP มีผลข้างเคียงน้อยมาก แต่อาจเกิดได้บางกรณี เช่น อาการปวด บวม แดง หรือฟกช้ำบริเวณที่ฉีด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา และรีบกลับมาพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติครับ


หากท่านสนใจการฉีด PRP ในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม อย่ารอช้า!! สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ “คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness สาขาชลบุรี” และ “คลินิกกายภาพบำบัด Zenista Health and Wellness สาขาเพชรบุรี” ทั้งสองสาขา หรือสอบถามเพิ่มเติม/ต้องการนัดหมายล่วงหน้า ได้ที่ Line : @zenista

บริการแนะนำ

กายภาพบำบัด,กายภาพบำบัด ชลบุรี, กายภาพบำบัด เพชรบุรี

กายภาพบำบัด

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาข้อเข่าเสื่อม,รักษาข้อเข่าเสื่อม ชลบุรี, รักษาข้อเข่าเสื่อม เพชรบุรี

รักษาข้อเข่าเสื่อม

คลินิกกายภาพบำบัด ชลบุรี เพชรบุรี ZENISTA CLINIC

รักษาออฟฟิศซินโดรม,รักษาออฟฟิศซินโดรม ชลบุรี, รักษาออฟฟิศซินโดรม เพชรบุรี

รักษาออฟฟิศซินโดรม

รักษาออฟฟิศซินโดรม อาการปวดหลังเรื้อรัง